Beyond Study Center เราให้คำปรึกษาการศึกษาต่อทุกระดับ สมัครเรียน ทำวีซ่า จองตั๋วเครื่องบิน ดูแลตลอดการเดินทาง

แชร์ประสบการณ์ทำงานออฟฟิศด้วยวีซ่า Wah โดย คุณโรส ประภาวรินทร์

บทความนี้จะพามาทำความรู้จักกับคุณโรส ประภาวรินทร์ สุขนภาสวัสดิ์ ที่ปัจจุบันได้ทำงานเป็น Student Walfare Officer กับ Academic Support ในสถาบันสอนที่ซิดนีย์ Warwick Institute of Australia ด้วยวีซ่า Work and Holiday

นอกจากทำงานที่สถาบันสอนแล้วคุณโรสยังทำงานเสริมอีก 2 งาน เรียกได้ว่าทำงานทุกวันเลยจริง ๆ ใครที่จะไป Wah แล้วเป็นสายเก็บเงินเหมือนกัน ตามไปอ่านบทความสัมภาษณ์นี้กันเลยค่ะ

Thaiwahclub : แนะนำตัวเองหน่อยค่ะ ชื่ออะไร เรียนจบจากไหน ทำอะไรมาก่อนบ้างคะ

สวัสดีค่ะ ชื่อ ประภาวรินทร์ สุขนภาสวัสดิ์ ชื่อเล่น โรสค่ะ จบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง สาขา Cosmetic Science ค่ะ

งานแรกหลังจากจบก็ได้ทำงาน Ground staff ตำแหน่ง Airport Service Officer ของ Hongkong Airlines ค่ะ ทำงานอยู่ที่นี่เกือบ 4 ปี ก่อนที่จะลาออกไป WAH ค่ะ

Thaiwahclub : เตรียมตัวสมัครวีซ่า Work and Holiday อย่างไรบ้างคะ

จริง ๆ เรื่องเตรียมตัวคือแทบไม่ได้เตรียมอะไรเลยค่ะ เตรียมตัวเตรียมใจพร้อมกดอย่างเดียว เพราะที่มหาวิทยาลัยใช้ภาษาอังกฤษในการเรียนการสอน เลยทำให้สามารถใช้ใบรับรองยื่นแทนผลสอบ IETLS ได้ค่ะ รู้สึกโชคดีกว่าคนอื่น ๆ

Thaiwahclub : กดโควต้าได้ตั้งแต่ปีแรกเลยรึเปล่าคะ มีเคล็ดลับในการกดโควต้าวีซ่าให้ทันยังไงบ้างคะ

จริง ๆ คือครั้งนี้กดโควต้าได้ครั้งที่ 2 แล้วค่ะ คือครั้งแรกเมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว ตอนจบมหาวิทยาลัยปีแรกค่ะ ตอนนั้นกดได้ 1 ใน 500 ได้ใบรับรองจาก สท. (ชื่อเดิมของ กรมกิจการเด็กและเยาวชน (ดย.)) แต่ไม่ได้ยื่นขอวีซ่าในครั้งนั้น คือตัดสินใจสละสิทธิ์ค่ะ เพราะได้งานสายการบินก่อนค่ะ และอีกอย่างคือยังไม่พร้อมในหลาย ๆ เรื่อง เช่นภาษา และทักษะต่าง ๆ ค่ะ

เคล็ดลับในการกดโควต้าของหนูคือการคิดบวก ความใจเย็นไม่ตื่นเต้น ไม่ได้ไม่เป็นไร ไม่กดดันตัวเองค่ะ จริง ๆ คืออาจจะเป็นคนดวงดีด้วยก็ได้ เพราะเคยกดให้เพื่อนได้ปีล่ะ 2 คน สองปีติดค่ะ

ก่อนกดวันจริงทางโครงการมีให้ซ้อมกดนะคะ ก็มีไปฝึก อันนี้ช่วยได้เยอะค่ะ เพราะเรารู้แล้วว่าวันจริงต้องกรอกข้อมูลสำคัญ ๆ อะไรบ้าง วันจริงจะได้ไม่ตื่นเต้นมากค่ะ

Thaiwahclub : ตอนนี้คุณโรสทำงานที่ไหน มีตำแหน่งหน้าที่ที่ทำยังไงบ้างคะ

ตอนนี้มาทำงานที่ Warwick Institute of Australia ค่ะ ตำแหน่ง Student Walfare Officer กับ Academic Support ค่ะ หน้าที่หลัก ๆ คือ Service ต่าง ๆ ให้คำแนะนำด้านการเรียนให้กับนักเรียนที่มีปัญหาค่ะ (คือก็แอบคิดนะคะ มาว่าถึงจุดนี้ได้ยังไง เพราะสมัยเรียนชอบลอกงานเพื่อนค่ะ เรียนไม่ค่อยได้ ขอคำแนะนำจากเพื่อนตลอดค่ะ) ฮ่าๆๆ

และอีกหนึ่งหน้าที่ ที่ได้รับหลังจากเริ่มงานได้ 2 weeks คือ Academic support คอยช่วยงานของ Course coordinator ค่ะ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบคือ สร้าง Study Plan ทุก course ในแต่ละเทอม, Add time table, สร้าง E-learning material, enroll แต่ละ subjects ของเทอมนั้น ๆ งานค่อนข้างเยอะและละเอียดมากค่ะ

Thaiwahclub : การทำงานที่นี่ช่วงแรกพบเจอปัญหาอะไรมั้ยคะ 

แน่นอนค่ะ สิ่งแวดล้อมเปลี่ยน สังคมเปลี่ยน และไม่เคยมีประสบการณ์ด้านงานสถาบันมาก่อน ทำให้เจอปัญหามากมายค่ะ ช่วงแรกตอนเทรนก็จะมีเพื่อนร่วมงานเทรนให้ว่าต้องทำอะไรบ้าง หน้าที่ที่รับผิดชอบ ขอบเขตของงาน เขาสอน เราฟัง เราจด

ช่วงแรกเรามาเหมือน Flash Drive ที่เพิ่งแกะกล่องมาใหม่ คือว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย คอยรอแต่ข้อมูล copy-paste มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ ยิ่งมีเรื่องภาษาเข้ามาก็ยิ่งปะติดปะต่อการทำงานไม่ค่อยได้

ช่วงเทรนคือ “จะให้โปรไม่รู้ ย่อมไม่ผิดอยู่ตลอด” เพราะอยู่ในช่วงที่ถามได้ทุกคำถาม คือพยายามเรียนรู้จากเคสตัวอย่างหรือเคสที่เจอค่ะ ขอคำแนะนำจากหัวหน้างานถ้าเรื่องไหนอะไรที่เราไม่แน่ใจ เราจะถามเขาหมดในช่วงที่เทรนงานค่ะ อาจจะมีโดนดุบ้างในบางครั้งแต่เราก็ฟังและจดจำเรียนรู้จากสิ่งที่พลาดมาค่ะ บวกกับพื้นฐานเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย และเรียนรู้ไว ทำให้การทำงานที่นี่ก็ปรับตัวได้เร็วและค่อย ๆสมูธขึ้นมามากค่ะ

Thaiwahclub : สายงานที่คุณโรสทำตอนอยู่ไทยค่อนข้างต่างจากที่ทำในออสเตรเลียพอสมควร คิดว่าเป็นปัญหาสำหรับการสมัครงานประเภท skilled occupation ที่ออสเตรเลียของเราไหมคะ

จริง ๆ มันก็นิดนึงนะคะ เพราะงานแต่ละสายก็มีทักษะแตกต่างกันไป ตอนสมัครงานนี่คือเขาก็ขอคนมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องด้านการศึกษานะคะ คือเราเองก็จบวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางมา ทำงานสายการบินก็ไม่ตรงกับที่เรียนมา แล้วมาสมัครงานด้านสถาบันการศึกษา ซึ่งดูแล้วมันไม่น่าไปด้วยกันได้เลย สิ่งหนึ่งที่อยากจะสื่อให้ผู้สัมภาษณ์รับรู้คือ ถึงแม้จะไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่เราก็พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เสมอ และจะบอกเขาตลอดว่าเรา fast learning มาก ๆ มีไหวพริบ และแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี

คือสมัครงานที่นี่เชื่อไหมคะ เขาไม่ขอแม้กระทั่งTranscript และ Degree certificate เลยค่ะ เขาไม่ได้สนใจว่าเราจบอะไรมาหรือจบมาจากไหน ก็ยังเชื่อนะคะว่า ถ้าเราตั้งใจทำอะไรสักอย่างจริง ๆ มันไม่มีอะไรที่เกินความสามารถค่ะ

Thaiwahclub : นอกจากงาน Student welfare officer ที่บอกมาได้ทำงานอะไรในออสเตรเลียอีกมั้ยคะ แล้วทำงานอะไร

ตอนนี้มีสามงานค่ะ รวมงานหลักแล้วนะคะ มีเพื่อนเคยถามว่าทำงานเยอะขนาดนี้ที่บ้านร้อนเงินเหรอ หรือรีบใช้หนี้หรือเปล่า ฮ่าๆๆ งานเสริมทั้ง 2 งานนี้เป็นงานที่ได้ตั้งแต่วีคที่ 2 ที่มาที่นี่ จนถึงตอนนี้ก็ยังทำอยู่ค่ะ

งานเสริมงานแรก เป็นงานที่หลายคนไม่ชอบ แต่เราชอบ งาน Drop menu จะรับดรอปทุกเสาร์ตั้งแต่ 9 โมงครึ่งจนกว่าจะหมด 1000 ใบค่ะ แต่ช่วงนี้งดไปนะคะเพราะอากาศร้อนมากค่ะ และอีกงานคืองานเสริฟอาหาร เจ้าของร้านที่ไป drop menu ให้ เขาสงสารเห็นเพิ่งมาจากไทยแล้วยังหางานอยู่ เขาก็ชวนมาทำ ทำไปได้แค่วีคเดียวก็ลด shift เหลือแค่เสาร์-อาทิตย์เย็นค่ะ เพราะได้งานสถาบันในวีคถัดมา คือทำงานไม่มีวันหยุดค่ะ ฮ่าๆๆ

แชร์ประสบการณ์ทำงานออฟฟิศด้วยด้วยวีซ่า Wah โดย คุณโรส ประภาวรินทร์

Thaiwahclub : สังคมการทำงานที่ออสเตรเลียเป็นยังไงบ้าง

สังคมการทำงานที่นี่แตกต่างจากไทยมาก ๆ ค่ะ ที่ไทยเราช่วยงานกัน ไม่เกี่ยงว่างานใคร ทำได้หมด แต่ที่นี่คืองานใครงานมัน ทั้งที่สามารถช่วยงานกันได้ บางทีงานเราแบบยุ่งมาก กองเต็มโต๊ะ แต่เพื่อนข้าง ๆ นั่งชิล เล่นมือถือ เปิด Facebook แต่เขาก็จะไม่ยื่นมือมาช่วยเรา เคยถามเค้าเหมือนกันนะคะ เขาเคยบอกว่า ใช่ เขาอาจจะช่วยได้ แต่บางทีเขาไม่ได้รู้ detail เท่าเราเอง และอาจจะพลาดได้ ซึ่งถ้ามีอะไรผิดพลาดมาเขารับผิดชอบไม่ไหว ถ้ามองในแง่ดีคือเขาก็อาจจะแค่ปกป้องตัวเอง บางทีการเอ็นดูเขาเอ็นดูเราอาจจะขาดก็ได้ อันนี้เข้าใจ และปรับตัวได้ค่ะ

Thaiwahclub : มีกิจกรรมอื่นๆอะไรอีกบ้างที่ได้ทำในออสเตรเลีย

เวลาว่าง ๆ จะวิ่งเล่นตามสวนสาธารณะค่ะ แต่ส่วนใหญ่ถ้าว่างจะออกไปเที่ยวค่ะ ถ่ายรูปเล่นตามร้านคาเฟ่เป็นส่วนมากค่ะ ที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องกาแฟ ดังนั้นร้านคาเฟ่สวย ๆ เยอะมากค่ะ น่าเข้าทุกร้านค่ะ

Thaiwahclub : คุณโรสมีวิธีหาเงินพิเศษที่ไม่สามารถทำได้ที่ไทยด้วย ช่วยเล่าหน่อยค่ะว่าเป็นยังไงบ้าง

เก็บขวดขายค่ะ จริง ๆ ที่ไทยก็ทำได้นะคะ แต่ไม่เคยคิดจะทำอยู่แล้วอ่ะค่ะ มาที่นี่ครั้งแรกเราตกใจมาก มันได้คืนขวดล่ะ 10€ เท่ากับประมาณ ชิ้นล่ะ 2.30 บาทบ้านเรา ลองคิดดูเล่น ๆ นะคะ 10 กระป๋องโค้กได้ 23 บาท 100 กระป๋องได้ 230 บาท มันดูเหมือนไม่เยอะแต่รวม ๆ กันคือได้ค่าขนม ของใช้ส่วนตัวอยู่นะคะ ถามว่าไปเก็บกระป๋องมาจากไหน? เก็บจากร้านอาหารไทยที่เราทำงานนั้นแหละค่ะ ไม่ถึงกับไปคุ้ยหาตามถังขยะนะคะ

ทุกวันอาทิตย์เราถือถุงดำถุงใหญ่มากขึ้นรถไฟเอาไปขายก่อนไปทำงานร้านอาหารไทยค่ะ อยู่ที่นี่ไม่อายนะคะ เพราะที่นี่เค้ารณรงค์ลดโลกร้อน พกถุงผ้าค่ะ เหมือนเราเป็นผู้พิทักษ์โลกอะไรแบบนั้น อันนี้คิดเอาเองนะคะ ฮ่าๆๆ ขายขวดวีคหนึ่งก็จะได้ประมาณ $20-$25 รวม ๆ ตั้งแต่เริ่มเก็บมาก็ได้ประมาณ $200 กว่า ๆ เยอะใช่ไหมคะ

แชร์ประสบการณ์ทำงานออฟฟิศด้วยด้วยวีซ่า Wah โดย คุณโรส ประภาวรินทร์

Thaiwahclub : วันหยุดจากการทำงานได้ไปเที่ยวที่ไหนในออสเตรเลียบ้างคะ และมีที่ไหนที่แนะนำสำหรับคนที่อยากไปเที่ยวออสเตรเลีย

จริง ๆ คือไม่มีวันหยุดเลยค่ะ ทำงานสัปดาห์ละ 7 วัน แต่มีเวลาเที่ยวนะคะ คือออกเที่ยวแค่วันอาทิตย์เพราะค่าเดินทางถูกค่ะ คือแต่ละวีคจะหารีวิว ทำแพลนแบบไปเช้ากลับบ่ายให้ทันไปขายขวดและเข้างานร้านอาหารไทย

เชื่อไหมคะแค่ครึ่งวันเช้าเคยไปไกลถึง Wollongong มาแล้วนะคะ ไปวัดจีนที่ใหญ่ที่สุดในออสเตรเลีย ไปดูจิงโจ้ถ่ายรูปแบบใกล้ชิดที่ Morisset นอกนั้นก็จะตามรอบ ๆ Sydney ค่ะ ก็จะมี Bondi, Manly, Diamond bay, La perouse, Cockatoo Island, Plam beach เร็ว ๆ นี้ช่วงคริสต์มาสก็มีทริปไปเที่ยว Melbourne ห้าวันค่ะ

Thaiwahclub : ปรับตัวสำหรับการใช้ชีวิตในออสเตรเลียอย่างไร มีเจอ Culture Shock บ้างไหม

เคยมีครั้งหนึ่งค่ะ ต้องไปเรียน Class RSA/RCG ที่สถาบันหนึ่งในซิดนีย์ มันคือใบอนุญาตในการทำงานในร้านอาหารที่มีแอลกอฮอล์เสริฟและตามร้านที่มี Casino ร้านอาหารบางทีเขาต้องมี RSA ในการทำงาน พอมาถึงที่ออสเตรเลียวันแรกเราก็ไปลงสมัครเรียนทันที เพื่อจะได้หางานได้ไว ๆ เรื่องก็เริ่มจากที่นี่แหละค่ะ

คนสอนเขาเป็นคนออสเตรเลียแต่กำเนิด ซึ่งหลายคนก็รู้ดีว่าสำเนียงคนที่นี่ฟังยากมาก ยิ่งใช้คำ slang ก็ยิ่งเข้าใจยากไปอีก ช่วงที่เรียนทั้ง class ส่วนมากจะหัวทองหมด คือไม่ใช่คนออสเตรเลียนะคะที่มาเรียน แต่จะเป็นคนแถบยุโรป อเมริกาใต้ ที่ถือ student visa และ working holiday visa

เราก็จะนั่งเด่นผมดำหน้าเอเชียกับเพื่อนอยู่ 3 คน คือเพื่อน 2 คนที่เรียนด้วยกันคือยังอ่อนในเรื่องภาษา เราก็ไม่ได้เก่งมากขนาดนั้น แค่สื่อสารคุยรู้เรื่อง เวลาเรียนเหมือน trainer เขาจะรู้ว่า 3 คนนี้ ฟังไม่รู้เรื่องหรือไม่ทันแน่ ๆ เขาก็ยิงคำถามต่าง ๆ นานามาหาเรา ยิ่งรู้ว่าเราตอบไม่ได้ หรือตอบแบบตะกุกตะกัก เขาก็ยิ่งถามเรามากขึ้น เสียงดังขึ้น ทีนี้แหละค่ะ ฟังเหมือนคนไม่ได้ยินเข้าหูซ้ายทะลุออกขวา คือตัวแข็งและชาไปหมดตอบไม่ได้เงียบ จนเหมือนเขาไม่พอใจมาก ๆ ที่เราเงียบแบบนั้น แล้วพูดเสียงดังให้ทั้งห้องได้ยินว่า 3 คนนี้ฟังไม่รู้เรื่อง แล้วมาเรียนทำไม? ถ้าพวกยูยังเป็นแบบนี้ ฉันออก certificate ให้ไม่ได้นะ แล้วสายตาคนทั้งห้องก็พุ่งมาที่เรา 3 คน

ตอนนั้นคืออายมากค่ะ ทำอะไรไม่ถูก ตัวชาไปหมด คือจริง ๆ ก็รู้เรื่องที่เขาพูดนะคะ แต่คือตอนนี้มันแบบช็อคค่ะ ทำอะไรไม่ถูก อยากเดินออกจากห้อง แต่เสียดายค่าเรียนที่จ่ายไป แต่สุดท้ายก็ทนนั่งเรียนทำแบบทดสอบไป คือสุดท้ายผลก็ผ่านนะคะ คือเราทั้ง 3 คน เขียนได้ อ่านได้ ฟังพูดอาจจะติดขัด แต่ไม่ถึงกับฟังไม่รู้เรื่องขนาดนั้น คือจริง ๆ เขาแค่อยากให้เราแสดงความคิดเห็นอะไรแบบนั้น ปกติเรียน lecture ก็นั่งฟังจด ๆ ไป พอมาเจอที่นี่ตั้งรับไม่ทันค่ะ ฮ่าๆๆ เหตุการณ์นี้ทำเสียความมั่นใจไปเกือบหมดจริง ๆ ค่ะ

แชร์ประสบการณ์ทำงานออฟฟิศด้วยด้วยวีซ่า Wah โดย คุณโรส ประภาวรินทร์

Thaiwahclub : ได้รับประโยชน์อะไรบ้างจากการไปออสเตรเลียด้วยวีซ่า Work and Holiday

ได้เจออะไรใหม่ ๆ ได้ฝึกภาษา ได้เพื่อนใหม่ มาที่นี่คือฝึกให้ตัวเองอดทนมากขึ้นค่ะ เพื่อนเคยบอกว่าอะไรที่ไม่เคยทำหรือทำไม่เป็น มาที่นี่เดี๋ยวก็ทำได้หมด มันเป็นแบบนั้นจริง ๆ ค่ะ

Thaiwahclub : ต่อไปหลังจากจบวีซ่า Work and Holiday ได้มีแพลนจะไปไหนทำอะไรต่อรึยังคะ

รอดูว่าที่ทำงานปัจจุบันเค้าจะยื่น work permit ให้ไหม เพราะตอนที่สัมภาษณ์งานเขาเคยคุยไว้แบบนั้น ถ้าเขาทำให้ก็อาจจะอยู่ต่อค่ะ แต่ถ้าไม่ ก็คงกลับไทย แต่คงขอไปเที่ยวที่ ๆ อยากไปสัก 2-3 เดือน และค่อยกลับมาช่วยธุรกิจที่บ้านค่ะ

Thaiwahclub : อยากฝากอะไรถึงคนที่กำลังตัดสินใจจะไปออสเตรเลียด้วยวีซ่า Work and Holiday หรือเรียนต่อในออสเตรเลียกันบ้างคะ

เชื่อว่ามีหลายคนที่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะมาดีไหม มาเถอะค่ะ มารอดไปด้วยกัน นี่น่าจะเป็นโอกาสเดียวในชีวิตที่สามารถมาทำงานได้ถูกต้องตามกฎหมายและทำงานได้เต็มเวลา อิสระมากค่ะ โครงการนี้น่าจะเป็นโครงการที่จ่ายน้อยที่สุด และเก็บเงินได้เยอะที่สุด ดูจากเพื่อนหลาย ๆ คนก็เก็บได้พอตัวค่ะ มาแบบถุงกระสอบ กลับแบบ rimowa อะไรแบบนั้นค่ะ ฮ่าๆๆ

 

ติดตามการใช้ชีวิตในออสเตรเลียของคุณโรสต่อได้ทาง Instagram : praphawarin สำหรับคนที่สนใจแชร์เรื่องราวของตัวเองในออสเตรเลียจะด้วยวีซ่า Wah หรือวีซ่านักเรียน สามารถติดต่อได้ทาง inbox ของเพจ Thaiwahclub หรือทางอีเมล zgamez@beyondstudycenter.com ได้เลยค่ะ

อ่านบทความที่น่าสนใจอื่นๆ คลิก