แชร์ประสบการณ์ทำงานด้าน Analyst ในออสเตรเลีย โดย คุณอลิส ฉันชนก

     จากแบ็คกราวด์ที่ไม่ชอบงานด้านบัญชีที่ทำในไทย และอยากออกไปหาประสบการณ์ต่างประเทศ จนปัจจุบันได้งานทำที่ใช่ในประเทศที่ชอบ และพร้อมขอ PR อยู่ต่อยาวๆ

      คุณอลิส ฉันชนก ธชทรงธรรม กับประสบการณ์เรียนต่อโท Master of Commerce ที่ The University of Sydney หนึ่งในมหาวิทยาลัยระดับท็อปของออสเตรเลีย พร้อมกับการทำงานด้านอนาลิสต์กับบริษัทต่างๆในออสเตรเลียถึง 4 แห่ง และกำลังดำเนินเรื่องเพื่อขอ Permanent residence อยู่ต่อในออสเตรเลีย

      Thaiwahclub : สวัสดีค่ะคุณอลิส แนะนำตัวกันหน่อยค่ะ 

      จริงๆชื่อเล่นจริงๆเลยก็ไอซ์ เเต่ที่นี่ใช้ชื่ออลิสค่ะ!

      ชื่อจริงชื่อ ฉันชนก ธชทรงธรรม จบปริญญาตรี บัญชีธรรมศาสตร์ เรียนบริหารสั้นๆที่โครงการ Junior MBA Chula แล้วก็มาต่อโท Commerce ด้าน marketing-analytics ที่ The University of Sydney ปัจจุบันเป็น Analyst ในทีม Financial advisory ที่ PwC Sydney ค่ะ

      Thaiwahclub : ก่อนมาออสเตรเลียเคยทำงานที่ไหนมาก่อนบ้างคะ

      ทำ Singha Biz Course 2 เดือน PwC Thailand 2 ปี เเล้วก็ออกมาช่วยคุณป้ากับญาติบริหารผิวดีคลินิก ปีครึ่งค่ะ

      Thaiwahclub : อะไรเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เราเดินทางมาเรียนต่อที่ออสเตรเลียคะ

      เพราะได้เเรงบันดาลใจจากพี่เเก่น ผู้บริหารของสิงห์ที่เราเคารพเเละสนิท พี่เเก่นเชียร์มากๆ ให้เราออกไปสัมผัสโลกใบใหม่ เพื่อพาความคิดเราให้เดินต่อไปด้วย คิดๆเเล้วเลยอยากให้การเรียนต่อมันเปลี่ยนชีวิตเราเเบบสุดๆไปเลย!

      เเล้วออสเตรเลียตอนนั้นเปิดให้ Permanent Residency คนบัญชีอยู่ เลยติดเบ็ดเขาเลยค่ะ! ที่สำคัญคือออสเป็นประเทศที่ทุกอย่างกำลังพอดีกับใจ อากาศดี อาหารดี ผู้คนรักสงบ ติดดิน ใช้ชีวิตชิลๆ ไม่ค่อยตีกับใครเพราะอยู่ไกลชาวบ้าน และซิดนีย์ไม่มีหิมะ! เลยคิดว่าน่าจะอยู่ยาวๆได้สบาย

      Thaiwahclub : จุดเด่นอะไรที่ทำให้คุณอลิสเลือกมาเรียน Master of Commerce ที่ The University of Sydney 

      เพราะว่าวงในพี่ๆที่ทำงานที่นี่บอกมาว่า USYD เเข็งเเกร่งมากเรื่องชื่อเสียงในตลาดงาน เเล้วก็เห็นได้อันดับ 4 โลกเรื่อง Employability ด้วย เลยเชื่อมั่นในยู ส่วนที่เลือก MCom ก็เพราะว่าการเลือกวิชาเรียนมันอิสระดีมากกก เเล้วเลือกจบได้ตั้ง 3 เอก

      Thaiwahclub : บรรยากาศการเรียนที่ The University of Sydney เป็นยังไงบ้างคะ แตกต่างกับที่ไทยมากไหม

      มากค่ะ! คือคนกล้าคิดกล้าเเสดงออก เเย่งกันตอบเเย่งกันเถียง มีอะไรก็ใส่กันตรงๆเหมือนถกกันได้ทุกเรื่องไม่มีเกร็ง เเล้วก็ให้อิสระทางความคิดมาก อาจารย์บอกว่าอาจารย์ไม่ได้มาอยู่ตรงนี้เพื่อจะสอน เเต่เพื่อเป็นคนคุมบทสนทนาให้เกิดการถกกันไปเรื่อยๆ การเเลกเปลี่ยนความรู้เเละการถกเถียงเพื่อคิดต่อ คือการเรียนรู้ที่มีค่าที่สุด

      Thaiwahclub : เริ่มต้นงานแรกที่บริษัท Taxback (บริษัทไอร์แลนด์ในประเทศออสเตรเลีย) ได้ยังไงคะ

      ตอนช่วงปิดเทอมเทอม 2 (เรียนทั้งหมด 4 เทอม) เห็น Taxback ประกาศในเว็บบอร์ดของ USYD บอกว่าอยากได้ Sales Analyst มาทำตลาดคนไทย เข้าทางเลย! งานเเรกเนี่ยปกติจะหายาก เพราะมาจากคนไม่มีประสบการณ์ Local เเต่คิดว่านี่น่าจะมีโอกาสสูงมาก เนื่องจากมันเฉพาะเจาะจงมากว่าเป็นตำแหน่งวิเคราะห์ตลาดคนไทย ก็เลยสมัครไปค่ะ

      Thaiwahclub : ตำแหน่งที่คุณอลิสทำมีหน้าที่ความรับผิดชอบยังไงบ้างคะ และสังคมการทำงานที่ออสเตรเลียเป็นยังไงบ้าง

      คือ Taxback เขาเอารายชื่อ/ข้อมูลกลุ่มที่น่าจะเป็นลูกค้ามาจากบริษัทพาร์ทเนอร์ที่ไทยค่ะ (เเนวคนไทยที่ไป Work and Travel, Work and Holiday เเล้วต้องการเคลมภาษีคืนตอนกลับบ้าน) เราเป็นคนดู return ว่ารายชื่อพาร์ทเนอร์ไหนกลับมาเป็นลูกค้าดี แล้วก็ดูพวกฟีดเเบคทางเว็บไซต์กับโซเชียลมีเดีย ดูว่ามีใครมาไลค์มาคลิกเยอะเเค่ไหน รวมถึงโทรคุยกับลูกค้าคนไทยที่ไม่เเข็งอังกฤษค่ะ

      สังคมที่ทำงานน่ารักมากกกกกเลยค่ะ บอสใจดีมาก เปิดโอกาสให้บ่นได้ตลอด บอสตัวอยู่ไอร์เเลนด์ เเต่โทรมาหาไม่เคยขาด เราสามารถบอกได้ตรงๆทุกเรื่องว่าตรงไหนไม่ดี ฯลฯ เเล้วก็คอยบอกเราเสมอว่า ถ้าต้องหยุดไปทำรายงาน/ทำการบ้าน บอกเลยค่ะ “Study comes first,Alice” (ตอนนั้นทำงานไปเรียนไปด้วย) ก็หยุดบ่อยอยู่ เเต่เขาไม่เคยหักเงินเลย!!!

      Thaiwahclub : แล้วหลังจากนั้นคุณอลิสก็ย้ายที่ทำงานอีก 3 ครั้งจนถึงที่ทำอยู่ในปัจจุบัน ช่วยเล่าถึงการย้ายงานแต่ละครั้งหน่อยค่ะ 

      จริงๆ Taxback จะให้ช่วยงานต่อตอนเทอม 4 เเต่ตอนนั้นเราอยากไปทุ่มเเข่ง startup project บอสก็เข้าใจค่ะ อวยพรให้ จากกันด้วยดี

      หลังเรียนจบก็ได้งานที่ HCF ค่ะ เป็น Data Analyst ใน Internal Audit team ตรงนี้จุดเปลี่ยนชีวิตเลยค่ะ เพราะได้มาเจอกับหัวหน้า 2 คน ที่เป็น mentor เรามาจนป่านนี้ คือโค้ชเราทุกเรื่อง รวมถึง refer ให้ได้เข้าทำงานกับบริษัท IT ชื่อ SATORI เพราะเราบอกเราสนใจโค้ดดิ้ง (พวก SQL, ACL, VBA) เเล้ว SATORI ดังเรื่องนี้มาก ก็ทำไปอีกหกเดือน เเล้วก็มีโอกาสได้สมัคร PwC เลยลองดูเเล้วก็ได้เข้ามาค่ะ

      Thaiwahclub : พูดถึง Project งานประกวด Sydney Genesis ที่คุณอลิสเคยทำสมัยเรียนบ้าง รู้จักโครงการนี้ได้ยังไงแล้วทำไมเราถึงไปร่วมแข่งขันได้คะ

      เห็นในเว็บบอร์ดของมหาวิทยาลัยค่ะ ตอนนั้นเห็นว่ามี cash prize ให้ด้วย เเล้วตัวเองก็มีไอเดีย (ที่คิดเอาเองว่าเจ๋ง) ฮ่าๆๆ ก็เลยอยากลอง

      Thaiwahclub : อยากให้เล่าถึงแอพพลิเคชั่นจากงานประกวด Sydney Genesis ที่กำลังทำอยู่ค่ะ แนวคิด การวางแผน รวมถึงการพัฒนาค่ะ 

      เริ่มจาก “ปัญหา” ค่ะ ไอเดียที่ดีเเละโตได้ควรจะต้องช่วยเเก้ปัญหาอะไรสักอย่างให้ผู้คน ตอนนั้นที่เเข่งก็คิดว่าปัญหาคือ ผู้หญิงที่ย้ายมาอยู่นี่ด้วยตัวเองนี่ก็มีเยอะ (เอาตัวเองเป็นกลุ่มเป้าหมายเฉย) อยากให้คอนเนคกัน ช่วยกันหางาน เเชร์สิ่งต่างๆ ลดค่าใช้จ่าย

      แต่หลังจบงานก็มีการปรับเปลี่ยนเเนวนิดหน่อย คือยังช่วยคนต่างชาติที่ย้ายมาออสเหมือนเดิม เเต่ไม่จำกัดที่ผู้หญิงค่ะ

      ตอนนี้ยังอยู่ในช่วงทดสอบตลาด ก็มีจัดอีเวนท์แชร์เรื่องการหางานเพื่อเอา contact ของคนที่สนใจมาเป็นฐานไว้ก่อน สัมภาษณ์กลุ่มเป้าหมาย เเละปรับปรุงไอเดียอยู่ตลอดค่ะ

      Thaiwahclub : ประสบการณ์การเข้าร่วมการประกวดในครั้งนี้ช่วยสอนอะไรเราบ้างคะ

      สอนว่าการศึกษากฎหมายบ้านเมืองเขาให้ถี่ถ้วนสำคัญมากกกค่ะ! เพราะตอน pitch คำถามเเรกที่โดนซัดเลย คือถามว่า “เเล้วคุณจะหลุดกฎหมาย discrimination ไปยังไง?” เพราะที่นี่ถ้าบอกว่าสิ่งนี้ๆ สำหรับ ผู้ชายเท่านั้น/ผู้หญิงเท่านั้นนะ โดนฟ้องเเน่ๆค่ะ คือทุกสิ่งต้องเท่าเทียมห้ามเเยกเพศ/อายุ/ชนชาติ

      เราก็ตอบเเถๆไปค่ะว่า เราไม่จำเป็นต้องโฆษณาว่าสำหรับผู้หญิงเท่านั้น เเต่สามารถใช้กลยุทธ์ทางการตลาด ดึงดูดผู้หญิงให้ได้มากกว่า ประมาณนี้ ฮ่าๆๆๆ

      Thaiwahclub : ตอนมาช่วงแรกๆเคยเจอปัญหาหรืออุปสรรคอะไรที่ทำให้เรารู้สึกท้อบ้างไหมคะ

      มากมายค่ะ หลักๆก็คือชีวิตความเป็นอยู่ การเรียนให้ได้คะเเนนดีๆ เพราะเรายังพูดไม่คล่องเเละเถียงไม่ค่อยทันเขาเลยคะเเนน participation ไม่ค่อยดี เเละการเป็นต่างด้าวหางานเนี่ยเเหละค่ะ เพราะพอไม่มี PR ก็หางานดีๆยาก ยิ่งช่วงเป็น Student visa นี่ยากมากแล้วก็เกรงใจพ่อเเม่ต้องมาช่วยค่าเช่าที่เเพงงงงลิบ

      Thaiwahclub : แล้วเรามีวิธีแก้ปัญหาหรือฮีลตัวเองยังไงให้ผ่านจุดนั้นไปได้คะ

      คุยกับคนที่เข้าใจ soul ของเราค่ะ ต้องให้เครดิตเพื่อนรักเเละน้องชายเลยค่ะ มีเพื่อนสนิทที่ความคิดเหมือนกัน หน้าคล้ายกัน ทุกสิ่งเหมือนกัน ฮ่าๆๆ

      เเบบพูดสั้นๆก็เข้าใจกัน คอยให้ความเข้าใจ ให้กำลังใจตลอด ไม่เคยรู้สึกถูกปล่อยให้สู้อะไรตามลำพังเลยค่ะ

      ส่วนน้องชายจะเป็นคนที่พูดอะไรออกมาเเล้วทำให้เราคิดตก สามารถทำให้เรื่องใหญ่ของเราดูเหลือเล็กจิ๊ดเดียว… พอจิตใจเราดี เราก็จะมีกำลังใจไปสู้ต่อค่ะ

      Thaiwahclub : มีประสบการณ์แปลกๆพีคๆอะไรที่อยากเล่าให้เราฟังไหมคะ

      มาอยู่ออสเตรเลียต้องอยู่ร่วมกับสัตว์ให้ได้ค่ะ ฮ่าๆๆ เพราะมันไม่กลัวคน เเละไม่เรียนรู้ที่จะกลัวคน (เพราะคนไม่ทำร้ายมัน)

      ตอนไปเเคมป์กลางป่ากับเพื่อน พีคมาาาาก วางถุงขนมไว้ข้างๆตัว ได้ยินเสียงเเกร่บๆ หันไปเจอตัวพอสซั่ม เอาหัวมุดเข้าไปในถุงขนมเรา กินอร่อยเลย ไม่พอ มีอีกสี่ห้าตัววิ่งมาเเย่ง ตบกันอีก ตบพลาดมาตบโดนนี่อีก … บ้าบอมากกก

      เเล้วอีกวันไปนั่งกินขนมกลางสวนกับเเม่ นกก็มาเเย่งเเซนวิชทั้งชิ้นไปจากมือ จิกเเรงมากกกกก โกรธมากโดนเเย่งของกินทุกที่ที่ไป

      Thaiwahclub : คนส่วนใหญ่บอกว่าถ้าไปอยู่ซิดนีย์จะเจอคนไทยเยอะ หลังจากอยู่มาเกือบ 4 ปีแล้วคุณอลิสว่าจริงอย่างที่เขาพูดกันไหมคะ

      เป็นเเถบๆค่ะ เเต่อลิสเเทบไม่ค่อยได้เจอคนไทยเลย ในมหาวิทยาลัยก็เเทบไม่มีคนไทย ตอนเรียนอยู่เป็นคนไทยคนเดียวในคลาสเกือบตลอดค่ะ ที่ทำงานยิ่งไม่มี… บางทีก็เเอบเหงานะคะ เห็นคนฝรั่งเศส คนเวียดนาม เม้าท์ภาษาแม่กัน เราก็อยากมีคนไทยให้เม้าท์ภาษาไทยด้วยบ้าง

      Thaiwahclub : แล้วถ้าอยากได้งาน Professional เหมือนคุณอลิสต้องทำยังไงบ้างคะ มีเคล็ดลับในการหางานไหมคะ

      ต้องรู้จักพรีเซนต์ตัวเองเเละคุยกับผู้คนให้ลื่นไหลค่ะ เจ้านายเก่าสมัยที่ทำที่ HCF เขาโค้ชเราหนักมากเรื่องนี้ เขาเป็นคนบริทิช เเฟนเขาเป็น career coach ที่ออสเตรเลียมานาน บอกเลยว่าคนออสซี่ไม่สนใจสกิลเท่ากับความรู้สึกถูกชะตาเวลาคุยกัน คนออสซี่ให้ความสำคัญกับ relationship มาก ชอบคนสนุก ชอบคนไนซ์ ใช้ชีวิตเป็น เเละคนที่มีบุคลิกน่าสนใจ

      หลังจากนั้นเราก็เรียนรู้ที่จะคอนเนคกับผู้คน ลักษณะท่าทาง (ถึงกับไปเทรนด้วยนะคะ) การทักทายผู้คน เชคเเฮนด์ให้ลื่นไหล มองตาเวลาคุยเเล้วหน้ายิ้มตลอดถึงเเกรมม่าจะบิดๆเบี้ยวๆบ้างก็ช่างมัน ยิ้มเเละพูดต่อไปค่ะ!

      เอาจริงๆสูตรนี้เหมาะกับคนไม่มี PR มาก เพราะปกติเวลาสมัครงานพอเห็นไม่มี PR เขาก็อาจจะมีคัดตกไปเยอะ แต่พอเรามีบุคลิกเเบบที่เขาชอบ บวกกับได้พิสูจน์ความสามารถเเล้ว อลิสไม่ต้องสมัครงานเองอีกเลยค่ะ (ช่วงเเรกสมัครไปสองร้อยกว่าในเดือนเดียว) เพราะจากนั้นมาก็เป็นหัวหน้างานที่ส่งต่อให้คนรู้จักบ้าง หรือคนรู้จักคอนเนคคนในบริษัทนั้นๆมาให้บ้าง แต่ถึงคอนเนคชั่นจะช่วย ก็อย่าลืมคงไว้ซึ่งบุคลิกเเจ่มใสร่าเริง พูดจาติดตลกบ้าง เวลาไปสัมภาษณ์กับเขานะคะ

      อลิสพูดติดตลกบ่อยเลย อย่างตอนเจ้านายที่ HCF แนะนำให้ไปทำ data analytics consultant กับ Satori CEO ของ Satori มาสัมภาษณ์เองเลย แกก็ถามว่า ชอบเลขไหม ปกติคิดเลขไวหรือเปล่า… เราก็บอก โอ้ยย ชอบเลขมากกก คิดเลขในใจเป็นประจำเวลาไปปาร์ตี้ ถ้าบวกเลขไม่ออกเเปลว่ากรึ่มหนักละ ทำใจเลยว่าคืนนี้มีจ่ายเกินเเน่ๆ

      Thaiwahclub : มีแพลนไว้บ้างหรือยังคะว่าหลังจาก Post-study work visa หมดแล้วเราจะทำอะไรต่อบ้าง อยากทำงานที่ออสเตรเลียต่อเลยไหม

      ทำต่อค่ะ คือตัวเองก็อยากจะยื่น PR ให้ได้ ถ้าไม่ได้ด้วยสายบัญชีก็อาจจะยื่นพาร์ทเนอร์วีซ่า

      แต่ยังไงก็จะอยู่ต่อค่ะ บิ๊วมาขนาดนี้เเล้ว! เพราะการได้ย้ายชีวิตมาอยู่ที่ที่ใช่เหมือนเป็นความใฝ่ฝัน

      Thaiwahclub : ช่วยฝากอะไรถึงคนที่อยากมาเรียนหรือทำงานที่ออสเตรเลียสักเล็กน้อยค่ะ

      พยายามเข้าให้ถึง local community ค่ะ! คุณจะไม่โดดเดี่ยว เพราะคนออสซี่ขี้เจ๊าะเเจ๊ะใจดี อบอุ่น มีน้ำใจ

      ถ้าต้องการข้อมูล/คำเเนะนำอะไร inbox มาหาอลิสได้ตลอดค่ะ! เรามีกรุ๊ปไลน์ที่เราสร้างขึ้นไว้รวมคนไทยที่อยากมาเรียนต่อและหางานบริษัททำเพื่ออยู่ออสต่อด้วย แล้วก็ตอนมาถึง ก็ดูเเลตัวเองดีๆนะคะ เพราะอาหารที่นี่มันอร่อยจริงๆ ระวังน้ำหนักเกิน

      สำหรับใครที่อ่านบทสัมภาษณ์นี้แล้วอยากแพ็คกระเป๋าไปออสเตรเลียแล้ว สามารถเข้าไปพูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่กรุ๊ปไลน์ของคุณอลิสได้ที่ ‘AustralianDream’ หรือสามารถส่งข้อความ Inbox ไปที่เฟซบุ๊คของคุณอลิสชื่อว่า ‘Alice Chanchanok’ ได้เช่นกัน คุณอลิสบอกว่ายินดีให้คำปรึกษาเต็มที่ค่ะ

      ส่วนใครที่มีเรื่องราวการใช้ชีวิตหรือไปเรียนต่อที่ออสเตรเลียอยากมาแชร์ให้กันฟัง สามารถติดต่อมาได้ที่ Inbox เฟซบุ๊คเพจ Thaiwahclub และ Beyond Study Center ได้ตลอดเลยค่ะ