เปลี่ยนแปลง Passport ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล ต้องแจ้งใครบ้าง
เปลี่ยนแปลง Passport ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล ต้องแจ้งใครบ้าง
เมื่อมีการเปลี่ยนข้อมูลส่วนตัว เช่น Passport หรือ ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู เบอร์โทร อีเมล พี่ๆทีมงาน Beyond Study Center มีสรุปมาให้ว่าหน่วยงานต่างๆที่เราควรจะต้องแจ้งจะเป็นดังต่อไปนี้ค่ะ
เปลี่ยนแปลงข้อมูล Passport เช่น ทำเล่มใหม่แทนเล่มเดิมที่หมดอายุ
– แจ้งสถานทูตในระบบ ImmiAccount (สำหรับทุกวีซ่า)
วิธีอัพเดตข้อมูล Passport ใน ImmiAccount https://www.thaiwahclub.com/news/631/How-to-change-data-passport/
– แจ้งประกันสุขภาพ OSHC (สำหรับวีซ่านักเรียน) หรือ OVHC (สำหรับวีซ่าทำงาน/ท่องเที่ยว)
– แจ้งสถาบันศึกษา (สำหรับวีซ่านักเรียน)
– แจ้ง Education Agent (สำหรับวีซ่านักเรียน)
เปลี่ยนแปลงข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่ เบอร์โทร อีเมล
– แจ้งสถานทูตในระบบ ImmiAccount (สำหรับทุกวีซ่า)
วิธีอัพเดตข้อมูลการติดต่อ ใน ImmiAccount (ทำคล้ายๆกับ Passport แต่เลือกหัวข้อ Change of address / address email แทน Change of passport details ) https://www.thaiwahclub.com/news/631/How-to-change-data-passport/
– อัพเดตข้อมูลในระบบ myGov หรือ ATO (สำหรับทุกวีซ่า)
– แจ้งนายจ้างที่ทำงานเพื่อให้แสดงที่อยู่ใหม่ใน payslip (สำหรับทุกวีซ่า)
– แจ้งธนาคารใน Mobile Application ของธนาคาร (สำหรับทุกวีซ่า)
– เบอร์โทรศัพท์และซิม (แบบรายเดือน) (สำหรับทุกวีซ่า)
– ผู้ให้บริการค่าไฟฟ้า ค่าน้ำ ค่าอินเตอร์เน็ต (สำหรับทุกวีซ่าที่เซ็นสัญญาเช่าบ้าน)
– Agent ผู้ให้เช่าบ้าน (สำหรับทุกวีซ่าที่เซ็นสัญญาเช่าบ้าน)
– แจ้งประกันสุขภาพ OSHC (สำหรับวีซ่านักเรียน) หรือ OVHC (สำหรับวีซ่าทำงาน/ท่องเที่ยว)
– แจ้งสถาบันศึกษาภายใน 7 วัน (สำหรับวีซ่านักเรียน)
– อัพเดตข้อมูลในระบบ USI (สำหรับวีซ่านักเรียน)
– แจ้ง Education Agent (สำหรับวีซ่านักเรียน)
ถ้าเป็นนักเรียนของ Beyond Study Center สามารถแจ้งพี่ๆทีมงานเพื่อให้ดำเนินการแจ้ง ImmiAccount / ประกันสุขาภาพ / สถาบันศึกษา ได้เลยนะคะ
การที่เราแจ้งอัพเดตข้อมูลเหล่านนี้ให้หน่วยงานต่างๆทราบนอกจากเป็นการให้เขาสามารถติดต่อเราได้ในช่องทางที่ถูกต้องแล้ว ยังมีข้อดีอย่างอื่นอีก เช่น คนที่ย้ายไปอยู่กับแฟนจะได้มีหลักฐานการอยู่ร่วมกันที่อยู่เดียวกันจริงๆ ในตอนที่ขอวีซ่าติดตามกันจะได้มีหลักฐานที่มีน้ำหนักขึ้นค่ะ