ขั้นตอนการเดินทางเข้าประเทศออสเตรเลีย

น้องๆที่ไม่เคยเดินทางไปอออสเตรเลียมาก่อนอาจจะยังไม่มั่นใจว่าต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง เตรียมสัมภาระยังไง เดินทางเข้าประเทศออสเตรเลียมีขั้นตอนยังไงบ้าง วันนี้พี่ๆทีมงาน Beyond Study Center จะมาแนะนำตั้งแต่การเตรียมตัวก่อนออกเดินทางไปจนถึงหลังลงเครื่องจนเข้าประเทศได้อย่างราบรื่นเลยค่ะ

ก่อนออกเดินทาง (หลังจากที่วีซ่าเพิ่งผ่าน)
– หลังจากวีซ่าผ่านให้ตรวจสอบข้อมูลส่วนตัวที่ระบุในวีซ่าที่ได้รับอีเมลมาว่าตรงกับ Passport ของเราหรือไม่ และเพื่อความแน่ใจสามารถเช็คสถานะวีซ่าออสเตรเลียด้วยตัวเองผ่านระบบ VEVO เพื่อยืนยันว่าข้อมูลถูกต้องตรงกัน
– จากนั้นเราก็สามารถวางแผนการบิน จองตั๋วเครื่องบิน และจัดกระเป่าได้เลยค่ะ
– ก่อนเริ่มจัดกระเป๋าอยากให้ศึกษาก่อนว่าสิ่งของที่ห้ามนำเข้าประเทศออสเตรเลียมีอะไรบ้าง ซึ่งสามารถดูข้อมูลได้ที่นี่นะคะ การเตรียมสัมภาระก่อนเดินทางไปออสเตรเลีย
– ถ้าไม่จำเป็นจริงๆไม่แนะนำให้เอาสิ่งที่ของที่สุ่มเสี่ยงต่อการห้ามนำเข้าประเทศไปค่ะ ที่ออสเตรเลียมีร้านเอเชียขายของไทยเยอะมาก
– ถ้ามีของที่ต้องสำแดงแนะนำให่รวบรวมไว้ในถุงเดียวกันหรือวางไว้ใกล้ๆ เวลาที่เข้าประเทศจะได้หยิบมาสำแดง่ายไม่ต้องรื้อหาทั้งกระเป๋า
– ถ้าเป็นไปได้พยายามเลี่ยงรับฝากหิ้วสิ่งของต่างๆแทนคนอื่นค่ะ ถ้าเกิดมีปัญหาขึ้นมาคนที่เดือนร้อนคือตัวเรา
– กระเป๋า Carry-on ที่นำขึ้นเครื่องได้ต้องน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ขนาดกระเป๋าต้องไม่เกิน 20x30x40 เซนติเมตร จำนวน 1 ใบ
– อย่าลืมตรวจสอบอายุของ Passport ด้วยนะคะต้องมีอายุเหลือมากกว่า 6 เดือนขึ้นไปนับจากวันที่เดินทาง ถ้าอายุเหลือต่ำกว่า 6 เดือนแนะนำให้ทำเล่มใหม่และอัปเดตข้อมูล Passport บนระบบ ImmiAccount
– ระหว่างรอบินควรรักษาสุขภาพและลดกิจกรรมที่ก่อให้ความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุที่ส่งผลให้เป็นอุปสรรคในการบิน เช่น ขาหัก ทำให้เดินทางไม่ได้ตามกำหนด
– ถ้ามีโรคประจำตัวอย่าลืมปรึกษาแพทย์ก่อนเดินทางนะคะ ยาบางชนิดที่ออสเตรเลียต้องมีใบแพทย์ถึงจะซื้อได้
– เปิดบริการ Internet Banking ถ้ายังต้องทำการโอนเงินไทยอยู่และติดต่อค่ายมือถือถ้าต้องการรับ sms OTP จากออสเตรเลีย
– ต่ออายุบัตรประชาชน ใบขับขี่ บัตรต่างๆ ถ้าใกล้หมดอายุ
– แสกนเอกสารสำคัญเก็บไว้ในอีเมล

ก่อนออกเดินทาง (24 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน)
– บางสายการบินสามารถให้เช็คอินออนไลน์ล่วงหน้าได้ 24 ชั่วโมงก่อนเวลาบิน
– ควรชั่งน้ำหนักกระเป๋าอีกครั้งว่าน้ำหนักเกินกว่าที่ซื้อไว้หรือไม่
– ตั้งนาฬิกาปลุกตื่นนอนและแจ้งเตือนเวลาที่ต้องออกจากบ้าน

วันเดินทาง (ก่อนออกจากบ้าน)
– ก่อนออกเดินทางไปสนามบินตรวจสอบของสำคัญที่ต้องนำไปด้วยให้ครบ เช่น Passport กระเป๋าเดินทาง มือถือ เงินสด ยาประจำตัว
– แนะนำให้เดินทางไปถึงที่สนามบินอย่างน้อย 3 ชั่วโมงก่อนเวลาบินค่ะ

วันเดินทาง (เมื่อถึงสนามบิน)
– ขั้นตอนนี้ให้เตรียม Passport ตัวจริงติดตัวไว้ตลอดนะคะ
– เมื่อไปที่ถึงสนามบินแล้วให้ตรวจสอบตารางบินที่ Departure Board เพื่อดูว่ารอบการบินของเราดีเลย์หรือถูกยกเลิกหรือไม่
– เมื่อตรวจสอบแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์สายการบินของเราเพื่อทำการเช็คอิน โหลดกระเป๋าลงใต้เครื่องและรับ Boarding pass จากเจ้าหน้าที่ (ส่วนกระเป๋า Carry-on เก็บไว้กับตัวนะคะ) 
– จากนั้นเดินไปแผนกผู้โดยสารขาออกซึ่งตรงนี้เราต้องแยกกับครอบครัวและเพื่อนๆที่มาส่งที่สนามบินแล้วค่ะ เมื่อลากันเรียบร้อยแล้วให้เดินเข้าประตูจะมีเจ้าหน้าขอดู Passport และ Boarding pass ของเรา
– เดินต่อไปจะเจอกับจุดตรวจร่างกายและกระเป๋า Carry-on เพื่อดูสิ่งของผิดกฎหมายและสิ่งของต้องห้าม ขั้นตอนนี้เราต้องแยกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เช่น มือถือ ออกจากกระเป๋าเสื้อและกระเป๋ากางเกง ก่อนทำการสแกนร่างกาย
– เมื่อสตรวจร่างกายและกระเป๋าแล้วจะเจอกับแผนกตรวจคนเข้าเมืองขาออก ขั้นตอนนี้ต้องแสดง Passport กับเจ้าหน้าที่ หรือไม่ก็เครื่องสแกนอัตโนมัติค่ะ
– ผ่านมาเรียบร้อยจะเจอกับ Duty Free ตรงนี้เราสามารถเดินเล่นและซื้อของได้แต่แนะนำให้ถามพนักงานขายก่อนว่าซึ่งของที่จะซื้อนี้สามารถนำขึ้นเครื่องหรือนำเข้าประเทศออสเตรเลียได้หรือไม่
– แนะนำให้ไปถึงที่เกทอย่างน้อย 30 นาที ก่อนเวลาเครื่องออก เกทและเวลาเครื่องออกอาจมีการเปลี่ยนแปลงให้คอยหมั่นดูบอร์ดและฟังประกาศจากสายการบิน
– ที่หน้าเกทจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบกระเป๋า Carry-on อีกครั้งหนึ่งเพื่อดูว่าเรามีของเหลวที่มากกว่า 100 มิลลิลิตร/กรัม หรือไม่ ถ้ามีเจ้าหน้าที่จะให้เราทิ้งไปค่ะ ไม่สามารถนำขึ้นเครื่องบินได้ (และขนาดของบรรจุภัณฑ์ต้องมีขนาดไม่เกิน 100 มิลลิลิตร/กรัม ถ้าเราอ้างว่ามีครีมอยู่ไม่ถึงครึ่งขวดที่บรรจุอยู่ในขวดขนาด 200 มิลลิลิตรแบบนี้ก็นำขึ้นเครื่องไม่ได้ค่ะ) ยกเว้นในกรณีที่ต้องใช้เพื่อรักษาหรือเกี่ยวข้องกับเด็กเล็กอาจจะได้รับอนุโลมเป็นกรณีไปค่ะ

วันเดินทาง (บนเครื่องบิน)
– ระหว่างที่อยู่บนเครื่องบินพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจะแจกบัตรผู้โดยสารขาเข้า (Incoming Passenger Card) ให้เรากรอก ถ้ามีปากกาแนะนำให้กรอกระหว่างที่อยู่บนเครื่องไว้เลยค่ะ เพราะถ้ารอลงเครื่องแล้วค่อยกรอกก่อนเข้าแผนกตรวจคนเข้าเมืองอาจจะตองรอคิวใช้ปากกาค่อนข้างนาน
– ดูตัวอย่างบัตรผู้โดยสารขาเข้าได้ที่นี่ค่ะ https://www.beyondstudycenter.com/checklist-baggage/
– หากไม่แน่ใจว่าสิ่งของที่นำมาต้องสำแดงหรือไม่ แนะนำให้ตอบ Yes ไว้ก่อน ตอนที่เข้าประเทศเจ้าหน้าที่จะขอดูของสิ่งนั้นค่ะ ถ้านำเข้าได้ก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้านำเข้าไม่ได้เราจะต้องทิ้งของนั้นไปแต่จะไม่โดนปรับหรือโดนลงโทษ แต่ถ้าตอบ No แล้วถ้าเจ้าหน้าที่ตรวจพบเราจะโดนปรับหรือโดนลงโทษด้วยนะคะ 
– อาหารสดที่สนามบินหรืออาหารบนเครื่องก็ไม่สามารถนำเข้าประเทศได้นะคะ แนะนำให้กินให้หมดหรือไม่ก็ทิ้งไปเลยค่ะ

วันเดินทาง (หลังลงเครื่อง)
– เมื่อตอนที่ลงเครื่องสิ่งแรกที่เราจะเจอก่อนเลยคือป้ายที่บอกว่าห้ามใช้มือถือ ตรงนี้ต้องระวังนะคะถ้าใช้มือถืออาจจะถูกปรับได้
– เดินตามทางมาเรื่อยๆเราจะกับเจอแผนกตรวจคนเข้าเมือง ซึ่ง Passport ไทยสามารถใช้ระบบสแกนอัตโนมัติผ่านเครื่อง kiosk ได้โดยการเสียบ Passport เข้าไปที่เครื่องตามคำแนะนำที่หน้าจอ หลังจากนั้นเครื่องจะปริ้นท์กระดาษออกมาหนึ่งแผ่น เก็บกระดาษแผ่นนั้นไว้พร้อมกับ Passport แล้วเดินไปที่ประตูเข้าเกทที่มีประตูกั้น ยืนเพื่อทำการสแกนหน้าแล้วประตูก็จะเปิดให้ออกจากแผนกตรวจคนเข้าเมือง เพื่อไปยังแผนกรับกระเป๋าต่อไปค่ะ (สำหรับคนที่สแกน Passport กับเครื่องไม่ได้ สามารถต่อคิวให้เจ้าหน้าที่ที่เป็นคนจริงๆตรวจ Passport แทนได้เช่นกันค่ะ)
– ระหว่างขั้นตอนนี้ไม่ว่าจะทำผ่านตู้ kiosk หรือคนจริงๆ อาจมีเจ้าหน้าสุ่มเข้ามาถามว่าเรามาออสเตรเลียทำไม พักที่ไหน พักกับใคร จะอยู่ที่ออสเตรเลียนานเท่าไหร่ ถ้าเป็นวีซ่านักเรียนอาจจะถูกถามว่า แพลนการเรียนของเราเป็นอย่างไร สมัครเรียนคอร์สอะไรไว้บ้าง เริ่มเรียนเมื่อไหร่ เรียนจบเมื่อไหร่ เรียนแล้วจะทำไปใช้ประโยชน์ยังไงต่อไป ฯลฯ ซึ่งถ้าตอบได้ไม่มีอาจถูกห้ามเข้าประเทศได้ค่ะ ดังนั้นแนะนำให้เตรียมตัวตอบคำถามเหล่านี้ไว้ด้วยนะคะ
– เมื่อผ่านแผนกตรวจคนเข้าเมืองมาแล้วให้มองหาป้าย Baggage Claim เพื่อไปยังแผนกรับกระเป๋า เดินตามทางไปจนเจอบอร์ดที่ระบุว่ากระเป๋าของเราที่ไว้โหลดใต้เครื่องอยู่ที่รางขนกระเป๋าหมายเลขอะไร โดยดูได้จากเที่ยวบินที่เราบินมา เช่น TG465 – Carousel Number 4 จากนั้นเดินไปยังที่หมายเพื่อรับกระเป๋าเดินทางของเรา
– เมื่อรับกระเป๋าแล้วมองหาทางออกจะมีทางออก 2 ช่อง คือ สีแดง (Something to declare) และ สีเขียว (Nothing to declare) ขั้นตอนนี้แนะนำให้ตรวจสอบอีกครั้งว่ามีสิ่งของอะไรที่เราลืมติ๊ก declare ในบัตรผู้โดยสารขาเข้าหรือไม่
– ถ้ามีของที่ต้องสำแดงให้เดินไปที่ช่องสีแดงค่ะ ทางเจ้าหน้าที่จะขอดูสิ่งของที่เราติ๊กไปว่าต้องการสำแดง อาจจะมีโอกาสโดนขอค้นกระเป๋าก็เป็นได้ค่ะแต่ถ้า declare ไว้หมดแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไรค่ะ
– แต่ถ้าไม่มีของที่ต้องสำแดงให้เดินไปที่ช่องสีเขียวได้เลยค่ะ แต่อาจจะมีเจ้าหน้าที่สุ่มขอตรวจกระเป๋าหรือน้องหมามาดมว่ามีของอะไรแปลกปลอมที่ไม่ได้สำแดงหรือไม่ด้วยนะคะ
– หลังจากผ่านขั้นตอนนี้ก็จะได้ออกไปส่วน Terminal ของสนามบินและสามารถออกจากสนามบินเพื่อนั่งรถไปยังเมืองต่างๆได้แล้วค่ะ

ขอให้ทุกท่านเดินทางโดยสวัสดิภาพนะคะ