ประสบการณ์เรียนปริญญาเอกสุดหินของคุณตาล รัชดา กับการเรียนด้านนโยบายสาธารณะที่ Australian National University (ANU) ด้วยทุน Endeavour Scholarship

ผ่านไปหนึ่งปีหลังจากที่คุณตาลได้รับทุน Endeavour Scholarship เพื่อศึกษาต่อระดับปริญญาเอกที่ออสเตรเลีย ด้านนโยบายสาธารณะ สาขาทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและการพัฒนา ที่ Crawford School of Public Policy ใน Australian National University (ANU)

ตามอ่านบทความสัมภาษณ์ครั้งก่อนของคุณตาลที่ >> Tarn – Ratchada ARPORNSILP กับทุนปริญญาเอก Endeavour 2018 ที่ ANU

ครั้งนี้คุณตาลจะมาอัพเดตชีวิตหลังจากที่ได้ไปเรียนถึงแดนจิงโจ้แล้ว การเรียนปริญญาเอกที่ออสเตรเลียจะหินขนาดไหนตามไปอ่านกันต่อได้เลย

ThaiWAHClub : คุณตาลแนะนำตัวคร่าวๆ อีกสักรอบหน่อยค่ะ 

สวัสดีค่ะ ชื่อตาล รัชดา อาภรณ์ศิลป์ค่ะ ก่อนได้รับทุนทำงานเป็นผู้ประสานงานโครงการอยู่ที่ศูนย์วนศาสตร์ชุมชนเพื่อคนกับป่า เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ตั้งอยู่ในมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ค่ะ

ThaiWAHClub : จากที่คุณตาลเคยให้สัมภาษณ์ครั้งที่แล้ว อยากให้มาอัพเดตชีวิตกันสักหน่อย หลังจากเรียนมาได้ปีนึงแล้วเป็นยังไงบ้างคะ การเรียนปริญญาเอกที่นี่ยากเหมือนที่เราคิดไว้ตอนแรกเลยไหมคะ

ได้รับทุนปริญญาเอกเมื่อปีที่แล้ว ตอนนี้เรียนเทอมที่สองแล้ว ก็ต้องบอกว่ายากกว่าที่คิดไว้เยอะมาก บางทีเราอาจทำการบ้านมาน้อยเกินไปว่าการเรียนปริญญาเอกนี่มันเป็นอย่างไร คนอื่นเขาผ่านประสบการณ์นี้ไปแบบไหน เราได้พบว่าคนที่เข้ามาเรียนแล้วเลือกลาออกไปก็มีไม่น้อย แต่ในเมื่อเรามาตรงนี้แล้วก็ต้องทำให้ดีที่สุดค่ะ

ช่วงปีแรกก็ต้องลงเรียนร่วมกับนักศึกษาปริญญาโทวิชาการทำโครงงานวิจัย และระเบียบวิธีวิจัยตามหลักสูตรของเรา แล้วก็เข้าร่วมกิจกรรมสัมมนาสำหรับปริญญาเอก ตอนนี้ก็ค่อยๆ วางโครงงานวิจัยตัวเองอยู่ค่ะ

ThaiWAHClub : พูดถึงการขอทุนบ้าง มีเคล็ดลับอะไรบ้างคะที่ทำให้เราได้รับเลือกให้รับทุนจากหลากหลายประเทศขนาดนี้

เคล็ดลับในการได้รับทุนไม่น่าจะมีนะคะ คือการสมัครทุนตาลมองว่าเป็นแบบฝึกหัดค่ะ เชื่อว่าคนที่ได้รับทุนทุกคนน่าจะทำแบบฝึกหัดกันมาไม่น้อย คือไม่ได้รับเลือกมากกว่าที่ได้รับแน่นอนค่ะ แต่สิ่งที่เราได้เป็นการพัฒนาความคิดทบทวนเป้าหมายการเรียนการทำงานของเรา

กว่าจะเขียนใบสมัครแต่ละทีเราก็ต้องอ่าน ต้องศึกษาหาข้อมูล ทำความเข้าใจหัวข้อบทความใบสมัครเรา กระบวนการสมัคร ฯลฯ ตรงนี้ต่อให้ไม่ได้รับทุน แต่เราก็จะได้ประสบการณ์และความรู้แน่นอนค่ะ

ThaiWAHClub : จากที่เรียนมาหลายประเทศ คิดว่าจุดเด่นของการเรียนที่ออสเตรเลียคืออะไรและแตกต่างจากที่อื่นยังไงคะ

จากประสบการณ์ที่ ANU คิดว่าการเรียนที่ออสเตรเลียมีจุดเด่นคือตัวหลักสูตร รวมทั้งผู้สอนและผู้เรียนเป็น international มากค่ะ คือนักศึกษาในระดับ postgraduate เป็นต่างชาติมากกว่านักศึกษาออสเตรเลีย คณาจารย์และ tutors เองก็มาจากหลากหลายประเทศ

หลักสูตรก็จะมีกรณีศึกษาจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคเป็นส่วนใหญ่ ที่สำคัญคือเขาจะเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้นำเสนองานแก่สาธารณะ การนำเสนองานวิจัยนักศึกษาปริญญาเอก ทางคณะฯ ก็จะเปิดเป็น public seminar ให้คนนอกเข้าร่วมฟัง สอบถามและแสดงความเห็นได้เต็มที่ค่ะ

ThaiWAHClub : ส่วนไหนที่เราคิดว่าเป็นส่วนที่ยากที่สุดหรือเป็นอุปสรรคสำหรับการเรียนที่ออสเตรเลียคะ

จริงๆ แล้วอาจไม่ใช่การเรียนที่ออสเตรเลียเฉพาะเจาะจง แต่น่าจะเป็นการเรียนระดับปริญญาเอกมากกว่า ซึ่งต้องใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ การจัดการข้อมูลองค์ความรู้มากขึ้น ซึ่งทักษะเหล่านี้เราอาจมีไม่มากพอ ตรงนี้ก็เป็นความท้าทาย

ThaiWAHClub : แล้วเวลาเครียดๆ จากการเรียน คุณตาลมีวิธีคลายเครียดหรือผ่อนคลายจากการเรียนยังไงบ้างคะ

เวลาเครียดๆ ก็ไปเข้ายิมที่มหาวิทยาลัยเล่นโยคะบ้าง แล้วแต่ว่าจะมีคลาสฟิตเนสอะไร บางทีก็ไปเดินเล่น ขี่จักรยานที่ทะเลสาบ ดูละคร อ่านนิยายบ้าง ช่วงก่อนก็ติดตามข่าวการเมืองที่ประเทศไทย ก็คลายเครียดจากการเรียนไปได้นะคะ ไปเครียดการเมืองแทนค่ะ

ThaiWAHClub : สังคมการเรียนการสอนของที่นี่เป็นยังไงบ้าง ทั้งบรรยากาศในมหาวิทยาลัย เพื่อนๆในคลาส แล้วก็อาจารย์ที่สอนค่ะ

บรรยากาศการเรียนการสอนที่นี่ก็เป็นกันเองมากๆ นักศึกษาอยากถามอะไร หรือบอกให้อาจารย์พูดซ้ำอีก หรือบอกว่าลืมอ่านบทความมา หรือบอกไปตรงๆ เลยว่าไม่เข้าใจก็เป็นเรื่องปกติมากในห้องเรียน

เท่าที่ตาลไปเข้าเรียนมา ช่องทางกิจกรรมการเรียนรู้ก็หลากหลาย มีคลาสออนไลน์ lecture ทุกครั้งก็จะอัดไว้เผื่อนักศึกษาขาดเรียนก็ไปตามเอาเอง มีทำ workshop ในห้อง ส่วนระดับปริญญาเอก ทางมหาวิทยาลัยก็มีการฝึกอบรมสัมมนาเพื่อเสริมสร้างทักษะทางวิชาการหลากหลายมากมายค่ะ

ThaiWAHClub : หลังจากเรียนมาแล้ว คิดว่าสิ่งที่เราเรียนจะเป็นประโยชน์หรือช่วยเหลือเราต่อการงานในอนาคตยังไงบ้างคะ

เรียนมาจะครบปีแล้ว ก็คิดว่าเราน่าจะวิเคราะห์ปัญหาในงานที่เราทำได้ลึกและกว้างขึ้น การประมวลเรียบเรียงข้อมูลอย่างเป็นระบบและสื่อสารทำความเข้าใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่มเป้าหมายในงานของเราต่อไปในอนาคตค่ะ

ThaiWAHClub : นอกจากเรียนแล้ว มีทำงานเสริมหรือทำกิจกรรมนอกห้องเรียนอะไรบ้างไหมคะ

นอกจากเรียนแล้วก็ไม่ได้ทำงานพิเศษอะไร แต่ทำกิจกรรมอาสาสมัครบ้างเป็นครั้งคราว ไปร่วมกิจกรรมที่สถานทูตไทย และก็จัดกิจกรรมประจำปีนอกสถานที่ร่วมกับนักศึกษาปริญญาเอกที่คณะฯ ค่ะ

ThaiWAHClub : มหาวิทยาลัยมี Support เราในด้านการให้เข้าร่วมกิจกรรมหรือด้านการเรียนยังไงบ้างรึป่าวคะ

ทางมหาวิทยาลัยก็สนับสนุนให้นักศึกษาทำกิจกรรมร่วมกันค่ะ อย่างเช่นการจัดกิจกรรมประจำปีของนักศึกษาปริญญาเอก ก็จะมีงบประมาณจัดสรรให้ทุกปี นอกจากนั้นก็ยังมีทุนแยกเฉพาะสำหรับให้นักศึกษาขอไปลงพื้นที่เก็บข้อมูล หรือไปร่วมประชุมสัมมนาทางวิชาการที่อื่นได้ค่ะ

ThaiWAHClub : อยากให้ฝากบอกถึงคนที่อยากมาเรียนปริญญาเอกที่นี่สักหน่อย ว่าควรต้องเตรียมตัวหรือเตรียมใจยังไงบ้างค่ะ

สำหรับทุกคนที่อยากมาเรียนปริญญาเอกต่อก็ต้องตอบตัวเองให้ได้ก่อนค่ะว่ามาเรียนเพื่ออะไร เพราะตลอดเวลาคำถามนี้จะเกิดขึ้นค่ะ ถ้าเรามั่นใจและชัดเจนว่าเป้าหมายเราสำคัญมีน้ำหนักมากพอ มันจะช่วยให้เรามุ่งมั่นผ่านความยากลำบากในการเรียนไปได้ค่ะ

นอกจากนั้นก็ควรมีหัวข้อที่เราสนใจจริงๆ อยากเรียนรู้ทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง ก็จะช่วยให้เราสนุกกับการใช้เวลากับงานวิจัยได้ค่ะ ที่เหลือก็เป็นปัจจัยความเหมาะสมกับงานของอาจารย์ที่ปรึกษา คณะที่เราเลือกสมัครเข้าไป ซึ่งอันนี้ก็ต้องศึกษาให้ดีค่ะว่าเรามีความสนใจตรงกันจริงๆ ขั้นตอนการเตรียมตัวการเขียนใบสมัครก็จะช่วยให้เราชัดเจนและเตรียมใจไปด้วยค่ะ

ติดตามบทความสัมภาษณ์ประสบการณ์การใช้ชีวิตในออสเตรเลียอื่นๆ ได้ที่ www.thaiwahclub.com หรือทางเฟซบุ๊คเพจ ThaiWAHClub

หากใครมีประสบการณ์ไป WAH ไปเรียน หรือไปทำงานที่ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ สามารถเข้ามาแชร์ประสบการณ์กันได้ โดยติดต่อมาที่ Inbox ของเฟซบุ๊คเพจ ThaiWAHClub และทาง LINE@ : @beyondstudy