7 ข้อมูลที่ควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำงานในออสเตรเลียแบบถูกกฎหมาย (ปีภาษี 2023-24)
7 ข้อมูลที่ควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการทำงานในออสเตรเลียแบบถูกกฎหมาย (ปีภาษี 2023-24)
1) ประเภทของการจ้างงานในออสเตรเลีย การจ้างงานจะแบ่งออกเป็น
1.1 Full time – ทั่วไปจะทำกันที่ 38 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ พนักงานจะได้สิทธิ์ลาหยุดประจำปีและสวัสดิการต่างๆ ด้วย
1.2 Part time – ได้ทำงานตามจำนวนชั่วโมงที่ตกลงกันไว้กับนายจ้าง และได้สิทธิ์ต่างๆเป็นสัดส่วนที่ลดลงของ full time (pro rata) เช่น สมมติที่บริษัทนี้ ทำงาน full time 38 ชั่วโมง กรณี part time 24 ชั่วโมง ก็คิดเป็นได้สิทธิ์ลาหยุดราวๆ 63.15% ของ full time
1.3 Casual – จะเหมือนลูกจ้างรายวัน คือถ้านายจ้างบอกวันนี้ไม่มีงานก็ไม่ต้องให้มาก็ได้ จะไม่ได้สิทธิ์หลายอย่างเหมือนแบบ full time / part time แต่จะได้รับค่าแรงเพิ่มชดเชยความเสี่ยงตรงนี้ไปอีก 25% ของค่าแรงปกติ
1.4 นอกจากนั้นก็มีประเภทอื่นๆ เช่น Contract แต่ส่วนมากวีซ่านักเรียนก็จะทำแบบ part time หรือ casual กันมากกว่า
2) ค่าแรงขั้นต่ำ
– ค่าแรงขั้นต่ำ 23.23 ดอลต่อชั่วโมง (ของแบบ part time/full time)
– ค่าแรงขั้นต่ำแบบ casual 23.23 x 1.25 = 29.04 ดอลต่อชั่วโมง
– ถ้าทำงานใน วันหยุดนักขัตฤกษ์ วันเสาร์-อาทิตย์ ทำงานล่วงเวลา ทำงานจนถึงดึกมากหรือเริ่มงานเช้ามาก ก็จะได้เรทพิเศษเพิ่มไปอีก
3) Superannuation
Superannuation เงินเกษียณขั้นต่ำที่ทางรัฐบาลบังคับให้นายจ้างจ่ายให้พนักงาน คิดเป็น 11% ของค่าแรงที่ได้ นายจ้างต้องจ่ายให้เข้า super account ของพนักงานเพิ่มขึ้น 11% ของเงินที่ได้ (สำหรับ 11% นี้ไม่ใช่หักจากค่าแรงของพนักงานแต่นายจ้างจ่ายเพิ่มขึ้นอีกจากปกติ)
4) การคุ้มครองตามการกฎหมายแรงงาน
– ทุกคนในออสเตรเลียที่มีสิทธิ์ทำงานได้รับการคุ้มครองตามกฎหมายแรงงาน รวมถึง student, working holiday makers
– เรื่องค่าแรงขั้นต่ำ และ Superannuation จะเป็นการใช้ Tax File Number (TFN) ในการทำงาน
– กรณีใช้ Australian Business Number (ABN) เราจะถูกมองเป็นเหมือนหน่วยธุรกิจ จึงมักจะแล้วแต่ตกลงกัน ไม่ได้ตาม minimum wage (ยกเว้นรัฐมีข้อกำหนดพิเศษขึ้นมา)
5) Payslip และการเข้าใจรายละเอียด
– เมื่อได้รับการจ่ายเงินจะได้รับ payslip เป็นหลักฐาน ระบุรายละเอียดต่างๆ รวมถึง เงิน , จำนวนชั่วโมงที่ทำ , super ที่ได้, ภาษีที่โดนหักไป และอื่นๆ
– นายจ้างจะหัก PAYG (Pay as you go) เป็น withholding tax ไว้ (ภาษีหัก ณ ที่จ่าย) เพื่อนำส่ง ATO รายได้ที่เราได้รับปกติจึงมักจะเป็น Net income ที่หักภาษีแล้ว
– ส่วนที่หักไว้ปกตินายจ้างมักจะใช้ accounting software คำนวน สามารถดูจาก weekly tax table หรือ calculator ใน application ของ ATO ได้ว่านายจ้างต้องหักเท่าไหร่
6) tax free threshold
– หลายๆวีซ่าชั่วคราว รวมถึงนักเรียนถ้าาคุณสมบัติครบจะมี tax free threshold (ช่วงรายได้เว้นภาษี) นั่นคือรายได้ทั้งปีภาษีจะมีช่วง 18,200 ดอลแรก
– ตรวจสอบตรงนี้ได้โดยทำ tax residency test ในเว็บ ATO
– ตรงนี้สมมติถูกหัก PAYG ไปก่อน ในส่วนภาษีของ 18,200 ดอลแรกที่โดนหักไปปกติก็จะเคลมคืนได้
– wah ไม่มี tax free threshold และเสียตั้งแต่ดอลแรกที่ 15% (ที่คืนได้ของ WAH ปกติจะเป็นการลดหย่อน)
7) การคำนวนภาษี
– ภาษีปลายปีเรามาคำนวนอีกที : กรณีที่โดนหัก PAYG เยอะไป = เคลมคืน , หักขาด = จ่ายเพิ่ม
– เยอะหรือน้อยไปจะดูจากรายได้รวมทั้งปีค่ะ และเทียบกับตาราง tax rate ของ ATO ซึ่งจะแยกเป็น bracket คือเสียภาษีตามช่วงรายได้เป็นขั้นบันได
– ภาษีตามเรทที่ต้องจ่ายจะตามรายได้ เช่น 15% ของ wah ในช่วงรายได้ 0-45,000 ดอลแรก ถ้าได้ทั้งปีที่ 45,000 ดอล ก็เสีย 15% = 6,750 ดอล ส่วนนี้สมมตินายจ้างหัก PAYG ไปถูกแล้วที่ 6,750 ดอล = ไม่สามารถเคลมคืนได้ เป็นต้นค่ะ
– ปีภาษีคือ 1 July – 30 June ของปีถัดไป
– ช่วงยื่นภาษีคือ 1 July – 31 Oct เช่น
ช่วงยื่นภาษีของรายได้ที่ได้ในปี 2022-23 (1 Jul 22- 30 June 23) คือ 1 July – 31 Oct 23
สำหรับใครที่ไม่สะดวกทำเรื่องเองอยากใช้บริการบริษัทบัญชีทำเรื่องให้ทั้งเคลมภาษีและเคลม Superannuation โดยมีเจ้ากน้าที่คนไทยดูแล สามารถติดต่อ Thai Tax แล้วแจ้งทีมงานว่าทาง Beyond Study Center แนะนำมาก็จะได้ส่วนลดราคาพิเศษค่ะ
บทความที่เกี่ยวข้อง
วิธีคำนวนภาษีสำหรับวีซ่านักเรียน
ขั้นตอนการสมัคร myGov account และ เชื่อมต่อบัญชีกับ ATO เพื่อดูข้อมูลรายได้และการทำเรื่องเคลมภาษีคืน
ขั้นตอนการสมัคร TFN – Tax File Number ด้วยตัวเองเมื่อไปถึง Australia